คลิปวิดีโอแนะนำ Blog
มาตรฐานที่ 8: นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา (Innovations and Technology for Education)
This Blog's Propose
Blog นี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อ เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน ของ ครูที่อบรมมาตาฐานวิชาชีพครู คุรุสภา มาตารฐานที่ 8: นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2559
วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2559
7 วิธีเรียนภาษาให้เก่ง!!!
1. ทุกภาษาเริ่มต้นที่ listening
Listening skill เป็น skill พื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการเริ่มตึ้นฝึกภาษา ถ้าไม่เชื่อลองสังเกตเด็กๆสิครับ เขาจะสามารถ ฟังได้ก่อน แล้วจึงสามารถพูด อ่าน เขียน ได้ตามมา เพราะการฟังจะทำให้เราเกิดความคุ้นเคยกับภาษา คุ้นกับสำเนียง การวรรคคำ การออกเสียง ทำให้ต่อมาเราจะสามารถเลียนแบบเสียงเหล่านั้นได้ ก็คือสามารถพูดได้ตามมาไงละครับ แล้วจึงสามารถอ่าน และเขียนได้ต่อๆไป ดังนั้นเมื่อเริ่มฝึกภาษาควรให้ความสำคัญกับ listening skill ฟังศัพท์ใหม่ๆ ฟังการออกเสียง ฟังสำเนียง ฟังรูปประโยคที่เขาใช้ ฟังร่วมกับบริบทที่เขาพูด แล้วทักษะอื่นๆจะตามมาเองครับ
1. ทุกภาษาเริ่มต้นที่ listening
Listening skill เป็น skill พื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการเริ่มตึ้นฝึกภาษา ถ้าไม่เชื่อลองสังเกตเด็กๆสิครับ เขาจะสามารถ ฟังได้ก่อน แล้วจึงสามารถพูด อ่าน เขียน ได้ตามมา เพราะการฟังจะทำให้เราเกิดความคุ้นเคยกับภาษา คุ้นกับสำเนียง การวรรคคำ การออกเสียง ทำให้ต่อมาเราจะสามารถเลียนแบบเสียงเหล่านั้นได้ ก็คือสามารถพูดได้ตามมาไงละครับ แล้วจึงสามารถอ่าน และเขียนได้ต่อๆไป ดังนั้นเมื่อเริ่มฝึกภาษาควรให้ความสำคัญกับ listening skill ฟังศัพท์ใหม่ๆ ฟังการออกเสียง ฟังสำเนียง ฟังรูปประโยคที่เขาใช้ ฟังร่วมกับบริบทที่เขาพูด แล้วทักษะอื่นๆจะตามมาเองครับ
2. ให้ภาษาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน หลายๆคนเมื่อจะเริ่มฝึกภาษาก็จะมีข้ออ้างกับตัวเองว่าไม่มีเวลา ซึ่งที่จริงแล้วการฝึกภาษานั้นสามารถทำให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันได้ครับ เช่น ฟังเพลงภาษานั้นๆแทนการฟังเพลงไทย ดูข่าวภาษานั้นๆแทนการดูข่าวภาษาไทยอย่างเดียว อ่านหนังสือพิมพ์หรือนิตยาสารภาษาต่างประเทศ เป็นต้น จะเห็นได้ว่าหลายๆอย่างนั้นสามารถปรับให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันได้ ดังนั้น อย่าพูดว่าไม่มีเวลา....สำหรับการฝึกภาษานะคะ
3. หาเพื่อนเรียนด้วยกัน การเรียนภาษานั้นหลายๆคนเมื่อเรียนไปก็จะรู้สึกท้อ ไม่เก่งสักที ไม่มีคนได้ฝึกด้วยกัน เพราะฉะนั้นการหาเพื่อนเรียนภาษานั้นจะช่วยได้มากเลยละ เพราะถ้ามีเพื่อนเรียนด้วยกันก็จะสามารถฝึกภาษาโดยพูดกับเพื่อน แชทกับเพื่อนเป็นภาษานั้นๆ หรือแม้แต่ให้กำลังใจในการเรียนกัน ทำให้การเรียนภาษานั้นสนุก ไม่น่าเบื่อ อีกด้วย ดังนั้นลองหาเพื่อนเรียนภาษาด้วยกันดูค่ะ
4. คิดเป็นภาษานั้น การฝึกภาษาให้ได้ผลอย่างนึงคือต้องคิดเป็นภาษานั้นๆ โดยไม่คิดเป็นภาษาไทย การคิดที่ว่านี้คือตั้งแต่เมื่อได้ยินภาษานั้นๆเลย ไม่ต้องแปลเป็นภาษาไทยในสมอง แล้วคิดคำตอบเป็นภาษาไทย แปลเป็นภาษานั้น แล้วพูดภาษานั้นตอบออกไป ซึ่งทำให้การพูดภาษานั้น ไม่คล่องเสียที เพราะต้องผ่านกระบวนการแปลไป-มา หลายครั้งไงครับ ดังนั้นคิดเป็นภาษานั้น อย่าแปลเป็นไทยครับ ฝึกไปเรื่อยๆ จะทำได้แน่นอนค่ะ
5. มีสมุดติดตัวเล่มเล็กสักเล่ม ระหว่างที่ฝึกภาษา แล้วพยายามทำให้มีการใช้ภาษาเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันนั้น อยากให้พกสมุดเล่มเล็กๆติดตัวไว้สักเล่มครับ แล้วคอยจดศัพท์ใหม่ๆที่ได้ยิน จดรูปประโยคใหม่ๆที่ได้เรียนรู้ หรือจะเป็นเทคนิคใหม่ๆในการเรียนภาษานั้น จดอย่าเดียวไม่พอนะครับ ทุกๆวันต้องกลับมาอ่านสิ่งที่จดลงไปด้วย เพื่อให้สามารถจดจำเนื้อหาเหล่านั้นได้ดีขึ้น
5. มีสมุดติดตัวเล่มเล็กสักเล่ม ระหว่างที่ฝึกภาษา แล้วพยายามทำให้มีการใช้ภาษาเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันนั้น อยากให้พกสมุดเล่มเล็กๆติดตัวไว้สักเล่มครับ แล้วคอยจดศัพท์ใหม่ๆที่ได้ยิน จดรูปประโยคใหม่ๆที่ได้เรียนรู้ หรือจะเป็นเทคนิคใหม่ๆในการเรียนภาษานั้น จดอย่าเดียวไม่พอนะครับ ทุกๆวันต้องกลับมาอ่านสิ่งที่จดลงไปด้วย เพื่อให้สามารถจดจำเนื้อหาเหล่านั้นได้ดีขึ้น
6. การวางเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ สิ่งหนึ่งที่ควรจะมีการกำหนดในการเรียนภาษานั้นคือการวางเป้าหมายครับ หลายๆคนฝึกแบบไร้จุดหมาย คิดแค่ว่าก็ฝึกๆไป เดี๋ยวก็คงเก่ง การฝึกแบบนั้นไม่เคยมีใครเก่งขึ้นเลยละ เพราะเมื่อต้องฝึกจริงจังก็จะคิดว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยทำก็ได้ ยังมีเวลาอีกเยอะ เนื่องจากไม่มีเป้าหมายและระยะเวลาไม่มีกำหนดนั่นเอง ดังนั้นต้องกำหนดเป้าหมาย และระยะเวลาด้วยครับ โดยเป้าหมายนั้นควรจะต้องเป็นสิ่งที่วัดได้ ไม่ใช่คร่าวๆ เหมือนพูดว่าต้องเก่งขึ้นเฉยๆ การกำหนดเป้าหมายเช่น ต้องสอบ TOEFL ให้ได้ มากกว่า 100 คะแนน ในระยะเวลา 6 เดือน ต้องอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเล่มนี้จบภายใน 2 สัปดาห์ เป็นต้น
7. Practice makes perfect คำพูดนี้ยังคงเป็นจริงเสมอสำหรับการเรียนภาษาค่ะ คือ ต้องฝึกฝนเยอะๆ หาโอกาสที่จะได้ใช้ ได้ฝึกเยอะๆ ยิ่งฝึกมากเท่าไหร่ ทักษะทางภาษาก็จะมีการพัฒนามากขึ้นเท่านั้น
7. Practice makes perfect คำพูดนี้ยังคงเป็นจริงเสมอสำหรับการเรียนภาษาค่ะ คือ ต้องฝึกฝนเยอะๆ หาโอกาสที่จะได้ใช้ ได้ฝึกเยอะๆ ยิ่งฝึกมากเท่าไหร่ ทักษะทางภาษาก็จะมีการพัฒนามากขึ้นเท่านั้น
ที่มา: http://www.top-atutor.com/
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)